แบบฝึกหัดทบทวน เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาบทเรียนนี้แล้ว จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1.
ใครเป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก และมีเหตุผลอย่างไร และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา
เป็นอย่างไร อธิบาย
คณะราษฎร์เป็นผู้ขอพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก
โดยให้เหตุผลว่าตอนนี้การศึกษามีการพัฒนาขึ้นและประชาชนมีความรู้มากขึ้น
ดังนั้นอยากให้เหล่าข้าราชการและประชาชนมีสิทธิมีเสียงในการออกความเห็นชอบในกฎหมายและพัฒนาประเทศ
ซึ่งในรัฐธรรมนูญฉบับแรกนั้น มีประเด็นเกี่ยวกับการศึกษา ได้แก่บุคคลสามารถจัดทรัพย์สิน
พูด เขียน โฆษณา ศึกษา อบรมและประชุมได้อย่างเปิดเผย
2.
แนวนโยบายแห่งรัฐในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช
2492 ได้กำหนดอย่างไร อธิบาย
แนวนโยบายแห่งรัฐ ของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2492 ที่เกี่ยวกับการศึกษาได้กำหนดไว้
คือ หมวดที่ 4 หน้าที่ของชนชาวไทย ความว่า
การศึกษามีจุดประสงค์ให้ประชาชนเป็นพลเมืองที่ดี ร่างกายแข็งแรง มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพและ
มีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตย รัฐเป็นผู้ควบคุมดูแลสถานศึกษา โดยชั้นประถมศึกษารัฐจะไม่เก็บค่าเล่าเรียน
ช่วยเหลืออุปกรณ์การศึกษา และสนับสนุนการค้นคว้าในทางศิลปะและวิทยาศาสตร์ แต่ในระดับอุดมศึกษานั้นให้สถานศึกษาเป็นฝ่ายจัดการเองภายในขอบเขตของกฎหมาย
3.
เปรียบเทียบแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช2511 พุทธศักราช 2517 และ พุทธศักราช 2521 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
อธิบาย
แนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯในทั้ง
3 ฉบับมีความคล้ายกันแต่มีการเพิ่มประเด็นต่าง ๆ เข้ามาอย่างละนิด
โดยแนวนโยบายแห่งรัฐประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2511
รัฐเป็นผู้ควบคุมดูแลสถานศึกษา โดยชั้นประถมศึกษาจะไม่เก็บค่าเล่าเรียน ช่วยเหลืออุปกรณ์การศึกษาตามสมควร
และสนับสนุนการค้นคว้าในทางศิลปะและวิทยาศาสตร์ แต่ในระดับอุดมศึกษานั้นให้สถานศึกษาเป็นฝ่ายจัดการเองภายในขอบเขตของกฎหมาย
เมื่อรัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2517 ประกาศใช้จะมีความคล้ายกับ
รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2511 โดยรัฐและท้องถิ่นยังเป็นดูแลสถานศึกษา
แต่เพิ่มจากชั้นประถมเป็นการศึกษาภาคบังคับ เพิ่มการให้ทุนช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้
และสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับศิลปะวิทยาการ สถิติ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ
รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521 ประกาศใช้จะมีความคล้ายกับ รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2517 โดยเพิ่มประเด็นการส่งเสริมให้เยาวชนเป็นผู้มีความสมบูรณ์ทั้งกาย
จิตใจและ สติปัญญา
4. ประเด็นที่
1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490
ประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 25492-2517
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ในรัฐธรรมนูญฯทั้งสองประเด็นนั้นมีความแตกต่างกัน
โดยประเด็นที่ 1 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2475-2490 กล่าวถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาไม่มาก
คือ การกำหนดสิทธิเสรีภาพในการพูด เขียน ศึกษา ประชุม ตั้งสมาคม การอาชีพ
ได้อย่างเปิดเผย แต่ในประเด็นที่ 2 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 25492-2517
ได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษามากยิ่งขึ้น ทั้งสิทธิ เสรีภาพทางการศึกษาที่ไม่ขัดต่อกฎหมายและหน้าที่พลเมือง
การดูแลสถานศึกษาของรัฐและท้องถิ่นในการศึกษาภาคบังคับ การที่สถานศึกษาจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาเอง
การช่วยเหลือทุนการศึกษาแก้ผู้ยากไร้ และการสนับสนุนศิลปะวิทยาการ วิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประเทศ
5. ประเด็นที่
3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช
2540-2550 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ในรัฐธรรมนูญฯทั้งสองประเด็นนั้นมีความแตกต่างกัน
โดยประเด็นที่ 3 รัฐธรรมนูญฯ พุทธศักราช 2521-2534 ให้ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพในการศึกษาภาคบังคับเสมอกัน
โดยไม่ขัดต่อกฎหมายการศึกษา รัฐบำรุงระบบการศึกษาและควบคุมสถานศึกษา
ส่วนระดับอุดมให้ดำเนินกิจการของตนเอง ซึ่งการศึกษาภาคบังคับของรัฐและส่วนของท้องถิ่นไม่มีค่าเล่าเรียน
รัฐช่วยเหลือทุนการศึกษาแก่ผู้ยากไร้ สนับสนุนการวิจัยในศิลปะวิทยาการ
การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และส่งเสริมให้เยาวชนสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา คุณธรรม และจริยธรรม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
และเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่ประเด็นที่ 4 รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2540-2550 ได้ให้สิทธิและเสรีภาพแก่บุคคลเสมอกันทั้งชายหญิง
ผู้ยากไร้ คนพิการ ในการศึกษาขั้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี
โดยต้องทั่วถึง มีคุณภาพ และไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพื่อพัฒนาความเป็นปึกแผ่น
ความเข้มแข็งของชุมชน และส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้รักสามัคคีและการเรียนรู้
ปลูกจิตสำนึกในศิลปวัฒนธรรมประเพณีของชาติและของท้องถิ่น
รัฐสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาโดยให้มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ
และกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรต่าง ๆ
มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มมาตรฐานคุณภาพการศึกษาให้เท่าเทียม
6. เหตุใดรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะต้องระบุในประเด็นที่รัฐจะต้องจัดการศึกษาอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
อธิบาย
เพื่อให้สถานศึกษาได้ให้สิทธิ เสรี แก่ประชาชนทั่วไปได้รับศึกษาทุกคน
และไม่มองข้ามประชาชนที่เป็นผู้ยากไร้ เป็นผู้พิการ และทุพพลภาพหรือผู้ด้อยโอกาส
ให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป เพื่อสามารถเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาได้
7. เหตุใดรัฐจึงต้องกำหนด
“บุคคลมีหน้าที่รับการศึกษาอบรมตามเงื่อนไขและวิธีการที่กฎหมายบัญญัติ” จงอธิบาย
หากไม่ปฏิบัติจะเกิดอะไรขึ้น
เพราะประชาชนจะได้ปฏิบัติเหมือนกัน และเยาวชนจะได้รับสิทธิในการศึกษาอย่างเหมาะสมและเท่าเทียมกัน
โดยพ่อแม่หรือผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ารับการศึกษาตามอายุและระดับชั้นที่กำหนด
ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะถูกต้องโทษปรับ
8.
การจัดการศึกษาที่เปิดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาหาก
เราพิจารณารัฐธรรมนูญมีฉบับใดบ้างที่ให้องค์กรส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วม และถ้าเปิดโอกาสให้
ท้องถิ่นมีส่วนร่วมมากขึ้นท่านคิดว่าเป็นอย่างไร จงอธิบาย
รัฐธรรมนูญฯ
พุทธศักราช 2550 ได้เปิดโอกาสให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ซึ่งคิดว่าจะช่วยให้การศึกษามีมาตรฐานคุณภาพการศึกษาที่เท่าเทียม และประชาชนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงทั่วภูมิภาค
ทั้งในเมืองและที่กันดาร
9.
เหตุใดการจัดการศึกษารัฐต้องคุ้มครองและพัฒนาเด็กและเยาวชนส่งเสริมความเสมอภาคทั้งหญิงและชาย
พัฒนาความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว และความเข็มแข็งของชุมชน สังเคราะห์ผู้ยากไร้
ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส จงอธิบาย
เพราะสังคมในปัจจุบันให้การเสมอภาคระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย
ในการศึกษาก็เช่นกัน รัฐจะให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัวและชุมชน
ซึ่งเป็นสถาบันเล็ก ๆ ที่ใกล้ชิดและสามารถปูพื้นฐานเบื้องต้น และสร้างเจตนารมณ์ให้แก่เด็กเกี่ยวกับการศึกษาได้
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ยากไร้ ผู้พิการหรือทุพพลภาพและผู้ด้อยโอกาส
ได้รับการศึกษา เพื่อให้พวกเขาได้เกิดความรู้สึกถึงการได้รับความสำคัญ มีโอกาสที่จะพัฒนาความสามารถของตัวเองให้สังคมยอมรับ
เพื่อเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
10. ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มีผลต่อการพัฒนาประเทศ อย่างไรบ้าง จงอธิบาย
การจัดการศึกษาที่ผ่านมาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มีผลต่อการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของชาติ
เพราะหากเยาวชนได้รับการศึกษาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้ว ไม่ว่าจะชาย หญิง คนพิการ
คนด้อยโอกาสหรือผู้ยากไร้ก็จะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม ทำให้บุคคลเหล่านั้นมีความรู้และสามารถนำไปประกอบอาชีพและมีรายได้
ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดการพัฒนา เมื่อได้รับการศึกษา เยาวชนจะได้รับการพัฒนาคุณธรรม
จริยธรรม และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม เพื่อการดำรงอยู่ในสังคมอย่างสงบสุข เยาวชนจะได้รู้จัก
ความสามัคคี ความเป็นปึกแผ่น การเคารพกฎหมาย ทำให้เป็นพลเมืองที่ดี
มีความมั่นคงของชาติ ซึ่งจากที่กล่าวมาหากเศรษฐกิจดี สังคมดี ก็จะส่งผลให้การพัฒนาประเทศเป็นไปในทางที่ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น